การล้างพิษออกจากร่างกาย



ทำไมต้องล้างพิษออกจากร่างกาย

           คุณเคยสังเกตก้นกระทะและรอบๆเตาแก๊ส    หรือท่อน้ำทิ้งที่

ล้างจาน  จะมีคราบเหนียว  ของน้ำมันเกาะอยู่ นั่นคือไขมันที่ผสมอยู่

ในอาหารที่เราทำหรือ  คราบน้ำมันที่ติดอยู่ที่จานที่เรานำไปล้าง แล้ว

ถ้าเรากินอาหารที่มีน้ำมันเข้าไปในร่างกาย  โดนอุณหภูมิร่างกาย 37

องศา ตลอดเวลา  น้ำมันจะเหนียวเป็นกาวยึดเกาะผนังลำไส้เป็นเวลา

นานเข้าก็จะหนาตัวขึ้น  (เหมือนท่อน้ำทิ้งที่ล้างจาน) ไปขวางระบบ

ดูดซึม  ระบบดูดซึมของร่างกายก็จะเสีย

           ถ้าเป็นก้นกระทะและรอบๆเตาแก๊ส   หรือท่อน้ำทิ้งที่ล้างจาน

เราสามารถล้างออกได้แต่ก็ยากมาก   แต่ถ้าเป็นในลำไส้ของเราแล้ว

เราจะส่งอะไรเข้าไปล้างมันได้


 

ภาพที่ 1 เป็นรูปลำไส้ของเด็ก ที่ยังไม่มีการเกาะจับของ คราบไขมัน  สารพิษ

ภาพที่ 2 รูปลำไส้ของผู้ใหญ่ (เป็นแบบนี้เกือบทุกคน ที่ทาน ทานแป้ง ของทอด) ที่มีคราบไขมันจากอาหารที่เรารับประทานเข้าไป

            ในแต่ละวัน เมื่อสะสมไปนานๆ จะทำให้กลายเป็นมะเร็งลำไส้ได้

ภาพที่ 3 รูปลำไส้ผู้ใหญ่ที่ล้างสารพิษ (Detox) แล้วทำให้ลำไส้สะอาดขึ้น ลดปัจจัยเสี่ยงที่จะเกิด มะเร็ง


สนใจสั่งซื้อ Herbal Wave >> <<


ระบบดูดซึมเสีย

๐ เมื่อระบบดูดซึมเสีย   ลำไส้จะดูดซึมสารอาหารที่เป็นประโยชน์ไปสร้างเม็ดเลือดไม่ได้  (สารอาหารที่ไปเลี้ยงเซลล์ส่วนต่างๆของร่างกายไม่ได้)  กินยาหรือ  วิตามินก็ไม่ดูดซึม  เพราะผ่านชั้นไขมันที่ผนังลำไส้ไปไม่ได้ หรือผ่านไปได้น้อย   ต่างกับการให้น้ำเกลือโดยฉีดเข้าเส้นเลือด โดยไม่ต้องผ่านระบบดูดซึม  แต่ใครจะให้น้ำเกลือได้ทุกวัน คงไม่มี 

เมื่อระบบดูดไม่ได้ พวกสารอาหาร และโปรตีน จะส่งไปให้ไตขับทิ้ง ไตก็ต้องทำงานหนักและอ่อนล้าเป็นธรรมดา ผลที่ตามาคือความเจ็บป่วย การเกิดโรคต่าง ๆ

อาหารที่เรารับประทานนั้นแบ่งเป็น 2 ชนิดที่มีเส้นใยมาก  ได้แก่ธัญพืชต่างๆ   เช่น ผัก ผลไม้ ข้าวโพด ฯลฯ และชนิดที่มีเส้นใยน้อยหรือไม่มีเส้นใย เช่น เนื้อสัตว์ ไขมัน และแป้งขัดขาว ฯลฯ  โดยอาหารที่มีเส้นใยมาก   เมื่อผ่านการย่อยแล้ว  จะขับถ่ายทางร่างกายโดยง่าย  ในขณะที่ อาหารที่มีเส้นใยน้อยเมื่อย่อยแล้วจะจับตัวกันจนเหนียว  ทำให้เคลื่อนผ่านลำไส้ใหญ่ด้วยความยากลำบาก  และมักเกาะติดอยู่กับผนังลำไส้ ไม่ยอมเคลื่อนตัวเข้าสู่ระบบขับถ่ายแบบปกติ  ด้วยเหตุนี้  ผู้ที่รับประทาน  อาหารที่มีเส้นใยน้อย  จึงมักมีอาการท้องผูก ถ่ายลำบาก  แถมสิ่งที่เกาะ อยู่ตามผนังลำไส้นี้ยังเป็นแหล่งเพาะเชื้อแบคทีเรีย ก่อให้เกิดการเน่าบูด  หรือเกิดสารพิษ ที่เป็นอันตราย  ต่อร่างกายได้  และอาจเป็นจุดเริ่มต้นของการเกิดโรคต่างๆ  ไม่ว่าจะเป็นโรคทางเดินอาหาร  เช่น  ท้องผูก ลมพิษ ผื่นแพ้ หอบหืด รูมาตอยด์ ฯลฯ นอกจากนี้ น้ำดีที่ผลิตออกมาจากตับ เช่น โคลิค แอซิด ( Cholic acid ) ,  ดีอ๊อกซีโคลิค แอซิค ( Deoxycholic acid  ) เมื่อผ่านไปที่ลำไส้ใหญ่จะถูกแบคทีเรีย เปลี่ยนเป็นสารเคมีที่ก่อให้เกิดมะเร็งในร่างกายคือ  แอพโคลิค แอซิด และ3-เมทิล-โคแลนทรีน  ตามลำดับ  ดังนั้น  ถ้าสารเหล่านี้อยู่ในร่างกายนานเท่าใด ลำไส้ใหญ่ก็จะดูดซึมเข้าสู่ร่างกายมากขึ้น  ทำให้มีโอกาสที่จะเกิดมะเร็งได้  สรุปง่ายๆ คือ  ท๊อกซินก็คือ  สารพิษ แต่ไม่ใช่ยาพิษ เป็นพิษที่เกิดขึ้นจากปฏิกิริยาทางเคมีในร่างกายของเราเอง เรากินอะไรผิดๆ  ( ส่วนมากก็จะเป็นอาหารดีๆอร่อยๆ ) ก็จะเกิดท๊อกซินขึ้นในตัวเรา การอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่มีมลพิษมาก  สารพิษก็สะสมอยู่ในตัว   การกินยาหลายขนานเป็นประจำ ผลข้างเคียงจากยาเหล่านั้นจะกลายเป็นพิษอยู่ในตัวเรา

โดยเฉพาะคนที่เคยกินอาหารผัดน้ำมัน หรือของที่ทอดน้ำมันบ่อยๆ หรือทุกวัน

 ควรจะต้องล้างลำไส้เพื่อให้ระบบดูดซึมทำงานได้ดีขึ้น

การไม่ล้างลำไส้ก็เปรียบเสมือนการกินข้าวแล้วไม่ล้างจานมื้อต่อไปก็ใช้จานใบเก่ามาใส่ข้าวกินใหม่นั้นเอง

ล้างลำไส้คืออะไร?? ผลดี ผลเสีย มีอะไรบ้าง ??

Detox ย่อมาจากคำว่า Detoxification หมายถึง กระบวนการในการล้างสารพิษ ( Toxin ) ออกจากร่างกายด้วยวิธีการต่างๆ เช่น การออกกำลังกาย  การนั่งสมาธิ  การสวนทวาร การกินเจ 90%  ของโรคเกิดจากการสะสมพิษในลำไส้ใหญ่   นักวิทยาศาสตร์ค้นพบว่า  การสะสมพิษ เช่น อุจจาระตกค้างตะกรัน  ( Chronic dunk ) ที่ลำไส้ใหญ่ หรืออาหารท้องผูก เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ร่างกายเราอ่อนแอ และเกิดโรคต่างๆ  ตามมาได้ง่าย  โรคที่เกิดจากการสะสมพิษในลำไส้ใหญ่  เช่น เบาหวาน  ความดัน  โคเลสเตอรอล  เส้นเลือดในสมองแตก  หลอดเลือดตีบตัน  หัวใจ  หลอดเลือดหัวใจตีบ  ไมเกรน  ปวดหัว  อัมพาต มะเร็ง  ผิวหนัง  ภูมิแพ้  ภูมิเพี้ยน  ( SLE )  เสื่อสมรรถภาพทางเพศ สิวเสี้ยน  สิวอักเสบ  ฝ้า  กระ  ผิวหยาบกร้าน  กลิ่นกาย  กลิ่นปาก ปวดหลัง  ปวดคอ  ปวดข้อ  ท้องอืด  ท้องเฟ้อ  โรคกระเพาะ  ลำไส้อักเสบ  ริดสีดวง  พุงโต  น้ำหนักเกิน  ฯลฯ

การ Detox ลำไส้

วิธี การที่คนนิยมใช้ คือการสวนทวารล้างลำไส้ตามโรงพยาบาล ต่างๆ ใช้บริการครั้งละ  700-1000  บาท  ใช้กรดมะนาว  หรือ  กรดกาแฟ ในการสวนทวาร โดยใช้น้ำอุ่นปริมาณ 25 ลิตร ปล่อยให้น้ำไหลช้าๆ เข้าไปทางทวารหนักทีละน้อยๆ   ผ่านหลอดสวนที่สอดเข้าทวารหนักลึกเพียง 2 นิ้ว ในขณะเดียวกันผู้ป่วยก็จะถ่ายเอาของเสีย และน้ำออกจากลำไส้ด้วยการเบ่งเหมือนกับการถ่ายอุจจาระตามปกติ  ซึ่งปริมาณของน้ำที่ไหลเข้าไปในลำไส้แต่ละครั้งไม่ถึง 1 ลิตร ก็จะถูกขับออกมา พร้อมกับของเสียผ่านทางทวารหนัก  และผ่านออกข้างๆ  หลอดสวน โดยไม่ต้องถอดหลอดสวนออก  ทำหมุนเวียนเช่นนี้จนน้ำหมด  25 ลิตร  ลำไส้จะสะอาดขึ้นและรู้สึกโล่งขึ้นในทันที  ข้อเสียคือทำบ่อยๆ อาจจะทำให้หูรูดเสีย  (เมื่ออายุมากขึ้น จะอั้นอุจจาระไม่ได้ ) 


วิธีการล้างสารพิษออกจากร่างกาย การล้างลำไส้  Detox โดยไม่ต้องสวน โดยใช้ผลไม้ดิบสกัดและเอนไซม์ในช่วยย่อย

Herbal Wave  เครื่องดื่มน้ำผลไม้ผสมสมุนไพร

ผ่านการคัดสรรสมุนไพรและผลไม้นานาชนิด ณ ดินแดนธรรมชาติ     ติดเขตอนุรักษ์ทุ่งใหญ่นเรศวร แหล่งวัตถุดิบที่อุดมสมบูรณ์แห่งหนึ่งของเมืองไทย   นำมาผ่านกระบวนการผลิตด้วยคุณภาพระดับสากล ซึ่งวิจัยและคิดค้นโดยนักวิชาการจากเยอรมัน โดยใช้ นวัตกรรม Freeze dry ที่อุณหภูมิติดลบ 20 องศาเซลเซียส ทำให้คงคุณค่าของวิตามินอย่างครบถ้วน

Herbal Wave ประกอบไปด้วย

1. น้ำองุ่น มีส่วนช่วยเรื่องของการบำรุงสมอง บำรุงหัวใจ แก้กระหาย ขับปัสสาวะ บำรุงกำลัง ลดริ้วรอยแก่ก่อนวัย

2. น้ำฝรั่ง ฝรั่งดิบจะประกอบไปด้วยวิตามินซ ซึ่งมีอยู่ในปริมาณที่สูงและยังมีแคลเซียม อ็อกซาเลต เบต้าแคโรทีน ช่วยลดอาการระคายเคืองของลำไส้ ช่วยป้องกันและรักษาโรคเลือดออกตามไรฟัน ใช้แก้ท้องร่วง ท้องเสีย และโรคในช่องปาก เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ป้องกันอันตรายต่อเซลล์และหลอดเลือดอุดตัน ช่วยทำให้ความดันและหัวใจทำงานได้ปกติ ช่วยบำรุง

3. น้ำสตรอเบอรี่ดิบ ช่วยต้านการเกิด มะเร็งหลอดเลือด ภูมิแพ้และมีประสิทธิภาพในการต้านสารอนุมูลอิสระสูง มีประโยชน์ต่อหลอดเหลือดและหัวใจ ช่วยลดคอเลสเตอรอลและเคลือบทางเดินอาหารทำให้ระบบทางเดินอาหารทำงานได้ สะดวก

4. น้ำแอเปิ้ลเขียว ช่วยย่อยอาหาร ย่อยโปรตีนและไขมัน ช่วยเสริมความจำและป้องกันภาวะสมองเสื่อม หรือโรคอัลไซโด์เมอร์ในผู้สูงอายุ ช่วยลดความดันโลหิตในร่างกาย

5. น้ำมะม่วงแก้วดิบ ช่วยดับกระหาย ละลายเสมหะ แก้อาการคลื่นไส้ อาเจียน ขับปัสสาวะช่วยให้เลือดลมของสตรีเป็นปกติ

6. น้ำผึ้ง ช่วยให้ไตและลำ ไส้ทำงานได้ดีขึ้น แพร่กระจายผ่านหลอดเลือดอย่างรวดเร็ว ให้พลังงานในส่วนที่สำคัญที่ร่างกายต้องการในการสร้างเลือด และช่วยควบคุมปริมาณน้ำตาลในเลือดให้เหมาะสม

7. น้ำมะละกอดิบ ช่วยลดกรดในกระเพาะอาหาร ช่วยการทำงานของลำไส้ให้ดีขึ้น ทำความสะอาดไตช่วยให้เลือดแข็งตัว ช่วยลดความเสี่ยงการเกิดมะเร็งปากมดลูกและมะเร็งลำ ไส้

8. น้ำสับปะรดดิบ ช่วยต้านอนุมูลอิสระและการติดเชื้อในลำไส้ ช่วยระบบย่อยอาหาร เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน ภูมิแพ้ ลดความเสี่ยงการเกิดโรคไตอักเสบ หลอดลมอักเสบ มะเร็ง ความดันโลหิตสูง ฆ่าพยาธิและช่วยขับระดู

9. น้ำส้มดิบ ช่วยป้องโรคเลือดออกตามไรฟัน เสริมสร้างคอลลาเจนทำให้แผลหายเร็วขึ้น และยังเป็นยาระบายอ่อนๆและช่วยบำรุงผิวพรรณให้สวยเปล่งปลั่งมีน้ำมีนวล ผิวเกลี้ยงเกลาและสดชื่น ขจัดความหมองคล้ำ ชะลอการเกิดริ้วรอย

10. น้ำมะขามป้อมดิบ ช่วยระบายขับ ปัสสาวะ แก้ร้อนใน ไอ หวัด เลือดออกตามไรฟัน ตกเลือด ท้องเสีย โลหิตจาง เรื้อน และความดันดลหิต ช่วยล้างสารพิษออกจากระบบต่างๆของร่างกาย

11. น้ำลำไย ลำไยถือเป็นผลไม้ ที่มีคุณค่าอย่างมหัสจรรย์ ไม่เพียงแต่อุดมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการจากสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย ลำไยยังมีคุณค่าทางการแพทย์และเภสัช ได้แก่ สารออกฤทธิ์เหนี่ยวนำเซลล์มะเร็งลำไส้ใหญ่และเซลล์มะเร็งเม็ดเลือดขาวให้ตาย และมีสารที่ช่วยชะลอการเสื่อมสลายของข้อเข่า

>> ผลลัพธ์จากผู้ใช้ผลิตภัณฑ์ ที่ใช้แล้วบอกต่อ <<






เลขทะเบียนการค้า

อย. 70-1-52347-2-0012

วิธีรับประทาน  ควรดื่มครั้งละ 15 ซีซี เช้า-เย็น ติดต่อกัน 5 วัน เพื่อ

ปรับสภาพร่างกาย  และเพิ่มปริมาณเป็น  30  ซีซี เป็นประจำทุกวัน

ไม่ควรดื่มเกินวันละ 200 ซีซี เพราะจะไม่เกิดประโยชน์ (เปลืองค่ะ)




สนใจสั่งซื้อ Herbal Wave >> <<



สรรพคุณโดยรวม 

- ต่อต้านหรือทำลายอนุมูลอิสระ

- ช่วยกำจัดและขับล้างสารพิษที่สะสมอยู่ในร่างกายด้วยระบบวิธี

  ธรรมชาติ ( Detoxification )

- ช่วยสร้างระบบภูมิคุ้มกันภายในร่างกาย ช่วยกระตุ้นและซ่อมแซม

  ส่วนที่สึกหรอของเซลล์ในร่างกาย

- ช่วยให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง สดใส กลับมามีชีวิตชีวา

- ทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้น ( Digestion System )

- ปรับความสมดุลในร่างกาย ( Body Balance)

 สาระน่ารู้จาก Herbal Wave

          * ปัจจุบันคนส่วนใหญ่หันมาให้ความสนใจตัวเองมากขึ้น ว่าควรจะปฏิบัติอย่างไรให้ตนเองนั้นมีสุขภาพที่ดี ปราศจากโรค โดยเลือกการออกกำลังกายที่เหมาะสมร่วมกับการรับประทานอาหารที่มีสารอาหารทาง โภชนาการอย่างครบถ้วน   ซึ่งเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการช่วยป้องกันความผิดปกติของเซลล์ และมีสุขภาพร่างกายที่สมบูรณ์แข็งแรง แต่จากการศึกษาวิจัยโดยผู้เชี่ยวชาญจากองค์การอนามัยโลก (WHO) ทำให้ค้นพบและเข้าใจได้ว่า การที่เราจะมีสุขภาพที่ดีนั้นขึ้นอยู่กับเอนไซม์ ซึ่งมีอยู่ในร่างกายถึง 2,700 ชนิด และเอ็นไซม์เหล่านี้จะทำหน้าที่ร่วมกับโคเอ็นไซม์เพื่อสร้างสารเคมีกว่า 10,000 ชนิด ที่ช่วยในการมองเห็น ได้ยินเสียง การเคลื่อนไหว และการย่อยอาหาร        

          * กระบวนการย่อยอาหาร  เป็นกระบวนการที่ทำให้โมเลกุลใหญ่มีขนาดเล็กลง   เพื่อช่วยให้ร่างกายสามารถนำสารอาหารไปหล่อเลี้ยงเซลล์ต่างๆได้สมบูรณ์ขึ้น หลังจากผ่านกระบวนการย่อยโมเลกุลเบื้องต้น อาหารเหล่านั้นจะถูกกักไว้บริเวณกระเพาะอาหารส่วนบนก่อนและใน 1 ชั่วโมงแรก เอ็นไซม์จากอาหารสด จะดำเนินการย่อยสารอาหารทั้ง 45 ชนิดเข้าสู่ร่างกายซึ่งหมายถึงถ้าท่านทานอาหารปรุงสุกจะไม่มีเอ็นไซม์ใน อาหารเลย ดังนั้นในกระเพาะอาหารส่วนล่างจึงจำเป็นต้องมีการหลั่งเอ็นไซม์ เพื่อย่อยอาหารในขั้นที่  2  แต่จะทำการย่อยเฉพาะสารอาหารประเภทโปรตีนเท่านั้น         

          * จากสภาพแวดล้อมในปัจจุบัน แม้ร่างกายจะสามารถสร้างเอ็นไซม์ได้เองโดยตับอ่อน  แต่จะถูกใช้ไปในการย่อยอาหาร  มีเพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่ถูกใช้ในการรักษาสมดุลของสุขภาพร่างกาย   ทั้งนี้เอ็นไซม์สามารถสูญเสียคุณสมบัติได้อย่างสมบูรณ์ตามธรรมชาติเนื่องจาก สภาวะความเครียด   การทำงานหนักในสถานที่ร้อนอบอ้าว   ร่างกายสามารถรับเอ็นไซม์เพิ่มได้จากการทานอาหารสด   และพืชดิบต่างๆ เพราะเอ็นไซม์ไม่สามารถทนต่อความร้อนที่อุณหภูมิสูงกว่า 48 องศาเซลเซียสได้ดังนั้นเราควรรักษาความสามารถในการสร้างเอ็นไซม์ของร่างกาย ให้เป็นปกติ มิเช่นนั้นจะเกิดผลเสียด้านสุขภาพตามไปด้วย

สนใจสั่งซื้อ Herbal Wave >> <<